จอภาพทำงานโดยการแสดงภาพ
ซึ่งอาจเป็นภาพกราฟิกหรือตัวอักษรซึ่งเกิดจากการประมวลผลของการ์ด (VGA Card) จอภาพแบ่งเป็น 2 ประเภท
คือจอภาพสีเดียวหรือจอภาพโมโนโครม (Monochrome) และจอสี ( Color
Monitor) ปัจจุบันจอภาพสีเดียวนั้นไม่เป็นที่นิยมใช้กับคอมพิวเตอร์
หากจะมีใช้ก็เฉพาะงานเฉพาะเท่านั้น ส่วนที่นิยมใช้ก็คือจอสี โดยแบ่งได้อีกเป็น
3 ประเภท คือจอสี
(VGA = Video Graphics Array) และจอสี Super VGA (SVGA =
Super Video Graphics Array ) และจอ LCD (Liquid Crystal
Display) ซึ่งประเภทหลังนี้มีราคาแพงมาก
จอภาพที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันคือจอ SVGA เนื่องจากมีราคาไม่แพงมากนัก
และเหมาะกับ Application ที่ออกแบบให้มีความสามารถแสดงภาพกราฟิก
นอกจากนี้ Application ประเภทมัลติมีเดียหรือเกมต่าง ๆ ก็ต้องการจอภาพที่มีความละเอียดสูง (High
Resolution) สามารถแสดงสีได้หลาย ๆ สีSlot เสียบการ์ดแบบต่าง
ๆ
การทำงานของจอภาพเริ่มจากการกระตุ้นอุปกรณ์หลอดภาพให้ร้อน
เกิดเป็นอิเล็กตรอนขึ้นและถูกยิงด้วยปืนอิเล็กตรอนให้ไปยังจุดที่ต้องการแสดงผลบนจอภาพ
ซึ่งที่จอภาพจะมีการเคลือบสารฟอสฟอรัสเรืองแสง เมื่ออิเล็กตรอนเหล่านี้วิ่งไปชน
ก็จะทำให้เกิดแสงสว่างซึ่งจะประกอบกันเป็นรูปภาพ ในการยิงลำแสดงอิเล็กตรอน
มันจะเคลื่อนที่ไปตามแนวขวางจากนั้นเมื่อกวาดภาพ
มาถึงสุดขอบด้านหนึ่งปืนลำแสงก็จะหยุดยิงและปรับปืนอิเล็กตรอนลงมา 1 line และเคลื่อนที่ไปยังขอบอีกด้านหนึ่งและทำการยิ่งใหม่
ลักษณะการยิงจึงเป็นแบบฟันเลื่อย
ปัจจุบันกระแสจอแบนได้เข้ามาแซงจอธรรมดาโดยเฉพาะประเด็นขนาดรูปทรง
ที่โดดเด่น ประหยัดพื้นที่ในการวาง รวมทั้งจุดเด่นของจอภาพแบน ก็คือประหยัดพลังงาน
โดยจอภาพขนาด 15 - 17 นิ้ว ใช้พลังงานเพียง 20 - 30 วัตต์ และจะลดลงเหลือ 5
วัตต์ในโหมด Standby ในขณะที่จอธรรมดา ใช้พลังงานถึง 80 -
100 วัตต์
สามารถแบ่งประเภทจอภาพ
ที่ใช้ในปัจจุบันได้กลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้
1. จอภาพสีเดียว (Monochrome Monitor)
จอภาพที่รับสัญญาณจากการ์ดควบคุม ในลักษณะของสัญญาณดิจิตอล คือ
0 กับ 1 โดยการกวาดลำอิเล็กตรอนไปตกหน้าจอ แล้วเกิดเป็นจุดเรืองแสง
จะให้สัญญาณว่าจุดไหนสว่าง จุดไหนดับ จอภาพสีเดียวเวลานี้ไม่มีผู้นิยมแล้ว
2. จอภาพหลายสี (Color Monitor)
จอภาพที่รับสัญญาณดิจิตอล 4 สัญญาณ คือ สัญญาณของสีแดง, เขียว, น้ำเงิน และสัญญาณความสว่าง ทำให้สามารถแสดงสีได้ 16 สี ถึง 16 ล้านสี
3. จอภาพแบบแบน (LCD; Liquid Crystal Display)
จอภาพผลึกเหลวใช้งานกับคอมพิวเตอร์ประเภทพกพาเป็นส่วนใหญ่
เป็นแบ่งได้เป็น
1.
Active matrix จอภาพสีสดใสมองเห็นจากหลายมุม
เนื่องจากให้ความสว่าง และสีสันในอัตราที่สูง มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า TFT –
Thin Film Transistor และเนื่องจากคุณสมบัติดังกล่าว
ทำให้ราคาของจอประเภทนี้สูงด้วย
2. Passive matrix color จอภาพสีค่อนข้างแห้ง
เนื่องจากมีความสว่างน้อย และสีสันไม่มากนัก ทำให้ไม่สามารถมองจากมุมมองอื่นได้
นอกจากมองจากมุมตรง เรียกอีกชื่อได้ว่า DSTN – Double Super Twisted
Nematic
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น